Music

Tarobei & flower” Music & Art Exhibition


ผู้จัด Japan Foundation


 

การแสดงศิลปะและดนตรีการกุศล
เวลาล่วงเลยมาหนึ่งปีเต็มนับจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ทว่าผู้คนจำนวนมากยังคงทนทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ดังกล่าว หลายคนยังต้องอยู่ในที่พักชั่วคราว ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ผู้ประสบภัยจากเหตุอุทกภัยได้สูญเสียบ้านพักที่อยู่อาศัย และกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


 

ในฐานะศิลปินและนักดนตรี เรายินดีที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวและอุทกภัย เพื่อให้มีพลังในการต่อสู้กับความยากลำบาก ด้วยการแบ่งปันน้ำใจผ่านทางความสามารถด้านศิลปะและดนตรีของพวกเราด้วยการแสดงรอบการกุศลครั้งนี้ กล่าวคือ เราจะบริจาครายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด ให้แก่สภากาชาดไทยและญี่ปุ่นโดยผ่านสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทั้งสองประเทศดังได้กล่าวแล้ว
 
เนื้อเรื่อง:
ทาโรเบ พนักงานออฟฟิศผู้เซื่องซึมเฉื่อยชากำลังรอรถไฟเพื่อจะกลับบ้าน ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาขึ้นรถไฟผิดขบวน รถไฟทั้งขบวนว่างเปล่า มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น ไม่นานเขาก็เคลิ้มหลับไป
 
นักแสดง:
เคียวโกะ อาเบะ จบการศึกษาจากโรงเรียนออกแบบคิวชู เมื่อปี 2530 ต่อมาในปี 2533 เธอได้เริ่มเป็นนักวาดภาพอิสระ และมีส่วนเกี่ยวข้องในหลากหลายโครงการ เคียวโกะสมรส และย้ายมาประเทศไทยในปี 2539 ปีถัดมาเธอได้รับรางวัลจาก Kodansha Grand Prize ในประเภทหนังสือภาพเรื่อง "Ohisama" ปี 2542 จัดนิทรรศกาลภาพวาดประกอบบทกวีของศิลปินชื่อดัง เคนจิ มิยาซาวะ ซึ่งถูกตีพิมพ์โดยบริษัทประกัน Daido Life ณ หอศิลป์เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ นอกจากนี้เคียวโกะยังได้จัดนิทรรศกาลเดี่ยวที่หอศิลป์ Akko อาทิเช่น "Springing Surprise "(2541), "Being Myself " (2544), "Can't Stop Painting "(2547) และ "Here Comes the Dog "(2549) ต่อมาในปี 2550 หนึ่งในผลงานของเธอได้ถูกนำไปใช้เป็นโปสเตอร์เนื่องในงานฉลองครบรอบ 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทย ขณะเดียวกัน เธอได้จัดนิทรรศกาลเดี่ยวลำดับที่ 5 ขึ้นที่หอศิลป์ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ในชื่อ "The Country that I Love, Thailand"
 
นิทรรศกาลเดี่ยวลำดับที่ 6 ของเธอ "The Place I am" ถูกจัดขึ้นที่หอศิลป์ Oishi ที่จังหวัดฟุกุโอกะ เมื่อเดือนกันยายน 2552 ปี 2553 เคียวโกะจัดแสดงผลงาน พิเศษ 20/20 เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปีหอศิลป์ Akko ซึ่งจัดแสดงหลายแห่งในกรุงเทพฯ เช่น หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังเป็นวิทยากรอบรมเชิงปฏิบัติการในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง อาทิเช่น อิเซตัน, สยามพารากอน และ เดอะมอลล์ นิทรรศกาลเดี่ยวลำดับที่ 7 "Let's Go Far Away "มีขึ้นที่ หอศิลป์ Akko เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึง 24 มีนาคมที่ผ่านมา
 
ยาโยอิ โมริตะ จบการศึกษาจากสาขาวิชาขับร้อง จากภาควิชาศิลปะและการดนตรี มหาวิทยาลัยโตไก เธอเปิดตัวครั้งแรกในงานคอนเสิร์ตศิลปินหน้าใหม่โยมิอุริ รวมทั้งได้แสดงใน JOPA's North European Tour ตั้งแต่ปี 2536 ยาโยอิได้ย้ายถิ่นฐานมายังประเทศไทย และก่อตั้ง Lily Music Studio ที่กรุงเทพฯ โดยเปิดสอนร้องเพลง และเปียโน นอกจากนี้ยังเป็นผู้กำกับวงขับร้องประสานเสียงหญิงญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2546 ยาโยอิมีผลงานการแสดงมากมายในกรุงเทพฯ รวมถึงการแสดงเดี่ยวในเทศกาลทางวัฒนธรรมต่างๆ อำนวยวงนักร้องประสานเสียง และเดี่ยวโซปราโน่ที่โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังร่วมแสดงใน รายการคอนเสิร์ตในบ้าน "Voice" จัดโดยเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2554 แสดงเดี่ยวคอนเสิร์ต ณ กรุงโตเกียว
 
ยาโยอิยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญจากโรงเรียนเต้นรำแบบประเพณีญี่ปุ่นฟูจิมะ และเป็นผู้ชนะการประกวดนางงามญี่ปุ่นปี 1987 อีกด้วย
 
โนริโกะ ทสึโบอิ เริ่มต้นเรียนโคโตะตั้งแต่วัย 8 ปี โดยเริ่มจากดนตรีญี่ปุ่นแบบประเพณี เธอได้รับใบประกาศนียบัตรครูจากสถาบันดนตรีซาวาอิในปี 2530 และเป็นนักศึกษาวิจัยพิเศษของสถาบันแห่งนั้นในเวลาต่อมา นอกจากนี้เธอยังสำเร็จหลักสูตรดนตรีแบบประเพณีจากเอ็นเอชเค (องค์การบริการกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะญี่ปุ่น) และหลักสูตรสัมมนาเร่งรัดภายในสองปีจากสถาบันดนตรีซาวาอิ ในปี 2535 ได้รับเชิญไปสอนโคโตะที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองอินดิโก ซึ่งเธอยังได้กำกับดูแลวงดนตรีนักเรียนโคโตะ และจัดแสดงคอนเสิร์ตในแถบแคลิฟอร์เนีย โนริโกะพำนักอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี 2544 ในปี 2548 เธอได้เชิญนักเล่นโคโตะ และชาคุฮาจิจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกามาจัดแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ โดยมีเจแปนฟาวน์เดชั่นเป็นผู้จัด ในปี 2550 ได้จัดคอนเสิร์ต Sawai Koto Orchestra Asia Tour ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก the Agency for Cultural Affairs of Japan โดยจัดแสดงที่ กรุงเทพฯ กัวลาลัมเปอร์ และนิวเดลี โนริโกะเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Lantana Koto Group แสดงดนตรีร่วมสมัยที่อ่าวซานฟรานซิสโกทุกปี
 
ปัจจุบันโนริโกะสอนโคโตะที่กรุงเทพฯ และยังคงเจตนารมณ์ที่จะสร้างสรรค์งานดนตรีในหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง
 
จุนตะ อาราคาวะ เริ่มเรียนเปียโนเมื่อวัย 4 ปีที่โรงเรียนยามาฮ่า ประเทศญี่ปุ่น ปี 2546 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิชาเอกการแสดงเปียโน วิชาโทธุรกิจ จากวิทยาลัยเซนต์นอร์เบิร์ท สหรัฐอเมริกา ในปี 2545 ขณะกำลังศึกษาอยู่นั้น เขาชนะรางวัลอันดับที่ 2 จากการประกวด Sheboygan Symphony Orchestra Concerto และ Lakeshore Wind Ensemble Concerto ต่อมาทำหน้าที่ผู้ช่วยสอนระดับปริญาโทที่มหาวิทยาลัย Wichita State โดยได้รับทุนสนับสนุนเต็มจำนวน และได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการแสดงเปียโน เมื่อปี 2549 ปีเดียวกันนั้นเอง จุนตะย้ายมาอยู่ประเทศไทย และเป็นอาจารย์ประจำของโรงเรียนดนตรีแห่งมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ นอกจากนี้เขาได้ร่วมแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ รวมถึง การแสดงดนตรีคลาสสิคสำหรับ IFCU คอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 250 ปีชาตกาลของโมสาร์ท และคอนเสิร์ต Musica Grandiozo ในปี 2551 จากความสำเร็จในการจัดการแสดงดนตรีเดี่ยวที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และที่ยามาฮ่า สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ส่งผลให้เขาได้เป็นนักเปียโนรับเชิญในงานของ DHC Promotion Event ที่สยามพารากอน ปี 2552 จุนตะได้รับเชิญในฐานะผู้ร่วมแสดงในนิทรรศกาลศิลปะที่จัดขึ้นโดย เคียวโกะ อาเบะ, ยาโยอิ โมริตะ และ โนริโกะ ทสึโบอิ ที่สยาม สมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2553 จุนตะได้ร่วมแสดงกับ ยาโยอิ โมริตะ ที่สถาบันเกอเธ่ เขายังคงศึกษาเปียโนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาทักษะ และเทคนิคกับศาสตราจารย์ มาซาโยชิ ซาซากิ ที่โรงเรียนดนตรีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ นอกจากนี้ จุนตะยังได้สอนเปียโนทั้งภาคทฤษฎี และประวัติศาสตร์ดนตรีในช่วงสุดสัปดาห์อีกด้วย
 
นักแสดง รับเชิญ:
ฟุโทชิ ฮาชิโมโตะ
สถาบันการแสดง
สถาบัน Actor Studio นิวยอร์ก 2539-2540
โรงเรียนการแสดง Guildhall ลอนดอน 2543-2544
 
ภาพยนตร์
2538 (ญี่ปุ่น ) Mountain of Marks กำกับโดย โยอิจิ ซาอิ
2551 (ญี่ปุ่น) Bloody Snake Under the Sun กำกับโดย ยาสุโทโมะ นาคาอิ
2554 (ญี่ปุ่น) Oba Last Samurai Saipan กำกับโดย ฮิเดยูกิ ฮิรายามะ
ละครเวที
2539 (ญี่ปุ่น) Dog Day Afternoon กำกับโดย โยโกะ นาราฮาชิ
2554 (ไทย) A Dream Within Dream กำกับโดย โชโกะ ทานิคาวะ
โฆษณาทางโทรทัศน์ (2554, ไทย)
"Noble Condominium Ploenchit"
"Suntory Mirai Green Tea"
"Oishi Gyoza"
"Wanchai Ferry Noodle"
 
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
โทร. 02 260 8560
http://www.jfbkk.or.th

Image Gallery