People's Gallery

นิทรรศการภาพถ่าย “ร่องรอยแห่งแรงปรารถนา”


โดย คุณภาณุวัฒน์ จิตติวุฒิการ  
พิธีเปิดงานในวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม  เวลา 17.00 น. 


นิทรรศการภ่าพถ่าย “ร่องรอยแห่งแรงปรารถนาบทภาวนาเพื่อดินแดนที่ถูกลืม” เป็นการรวบรวมผลงานภาพถ่ายที่สะท้อนถึงความผูกพัน ความทรงจำ และความหวังของผู้ลี้ภัยชาวทิเบตที่มีต่อดินแดนบ้านเกิดเมืองนอน ผ่านใบหน้าของผู้ลี้ภัยที่ร่วมกันสวดภาวนาอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์เพื่อปกปักษ์รักษาบ้านเกิดเมืองนอนที่ตนจากมา

เนื้อหาผลงาน
“ผู้คนสวดภาวนาด้วยแรงปรารถนา  โดยอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพื่อดลบันดาลให้ความฝันของตนเองเป็นจริง 
ในภาพถ่ายชุดนี้ผมได้บันทึกใบหน้าของผู้ลี้ภัยชาวทิเบต ที่หลบหนีออกจากดินแดนบ้านเกิดเมืองนอนมากว่า๕๐ปี ขณะเวลาที่ถ่ายภาพผมขอให้พวกเขาสวดภาวนา และนึกถึงสิ่งที่ตนเองปรารถนา โดยที่แทบทุกคนสวดภาวนา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธ์ปกป้องรักษาบ้านเกิดเมืองนอนที่ตนจากมา  ผมเลือกใช้กระบวนการถ่ายภาพซ้อน (multiple exposure) เพื่อบันทึกช่วงเวลาแห่งการภาวนา โดยผมมีความเชื่อว่ากระบวนการถ่ายภาพซ้อนจะสามารถบันทึกบุคคลิกร่วมของผู้ลี้ภัยที่ปรารถนาในสิ่งเดียวกันและแสดงออกให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของผู้คนที่อาศัยอยู่ต่างที่ต่างเวลาแต่มีแรงปรารถนาเดียวกันได้”
 
บทวิจารณ์จากหนังสือร่องรอยแห่งแรงปรารถนาบทภาวนาเพื่อดินแดนที่ถูกลืม
ศิลปินได้พยายามทำให้เราได้สังเกตุเห็น ถึงแรงขับเคลื่อนบางอย่างที่เชื่อมโยงใบหน้าของผู้ภาวนาเข้าด้วยกัน จนกระทั่ง เราสามารถซึมซับรายละเอียดของร่องรอยอัตลักษณ์อันเบาบาง ที่ปรากฏบนทุกมิติทางกายภาพของงานได้ ใบหน้าที่เริ่มเลือนหายไปแต่กลับให้ความรู้สึกเรียบง่ายและเบาสบาย เมื่อนั้นผลงานได้นำพาเราไปสู่การตระหนักรู้ถึงมิติทางจิตวิญญาณการเฝ้าสังเกตเช่นนี้ต้องอาศัยความอดทนและสมาธิที่จดจ่ออย่างยิ่งเพื่อมุ่งเข้าถึง “จิตภายใน” ผ่านทาง “รูปกายภายนอก” และเมื่อใดที่เราละสายตาจากภาพภายนอกเข้ามาจับจ้องที่ภายในจิตตัวเอง เมื่อนั้นเราจึงได้เข้าถึงสภาวะอันบริสุทธิ์ของความงามที่ไร้ขอบเขต
 
ประวัติศิลปิน
ภาณุวัฒน์ จิตติวุฒิการ ศิลปินช่างภาพ เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2527  หลังจากจบการศึกษา ด้านทัศนศิลป์ และรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ และ ได้เข้าร่วมแสดงงานนิทรรศการด้านศิลปะระดับนานาชาติและได้รับรางวัลมากมาย โดยมีผลงานที่โดดเด่นอาทิเช่น 
 
ปี พ.ศ. 2542  ภาพถ่ายชุด SIEV X  ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้ลี้ภัยชาวอิรักที่ถูกห้ามลี้ภัยในออสเตรเลีย  ได้รับรางวัล The Art of Delivering Justice, National Award winning  
 
ปี พ.ศ. 2544  “เพลงศพแห่งอันดามัน”  ภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์การสึนามิ  ได้รับรางวัล Yong Thai Artist Award  
 
ปี พ.ศ. 2545  โครงการสารคดีชุด “Sand Bag Panic”  ได้รับรางวัลชนะเลิศในโครงการของ Stream Photo Asia, Master Class Series 
 
ปี พ.ศ. 2555  ผลงานชุด “Trace of Dreams” ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย Chang  Photo Fine Art  Contest,  
 
และ ปี พ.ศ. 2556  ภาพถ่าย “เสียงฝน” ได้รับรางวัล เหรียญทองเกียรติยศ  รางวัลภาพถ่ายแห่งแผ่นดินครั้งที่ 26 จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
 
นอกจากนั้น ปี พ.ศ. 2554 “รอยยิ้มพลัดถิ่น” รวมผลงานภาพถ่ายสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวทิเบต ได้มีโอกาสจัดแสดงที่  Tibet House  ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา  และ เมืองลีออง  ประเทศฝรั่งเศส  
 
ปี พ.ศ. 2555 จัดนิทรรศการแสดงเดี่ยว  “Happiness beyond Measure” ณ หอศิลป์จามจุรี  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
นอกเหนือจากการทำงานศิลปะ  นาย ภาณุวัฒน์ ได้เข้าร่วมทำงานกับมูลนิธิเสฐียรโกเศศ – นาคะประทีป ในปี พ.ศ. 2551 เพื่อทำโครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวทิเบต ในประเทศอินเดีย เนปาล และภูฎาน 
 
จากบทบันทึกการเดินทาง ตัดตอนบางส่วนจากหนังสือ
“ผมเริ่มต้นออกเดินทางถ่ายภาพ  เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังสูญเสียการได้ยินและประสาทสัมผัสของดวงตาข้างซ้าย ซึ่งกำลังเสื่อมลง การถ่ายภาพดูจะเป็นหนทางเดียวที่ผมจะได้มีส่วนรวมกับความงดงามของโลกใบนี้ก่อนที่จะสายเกินไป  ผมอยากมีภาพความทรงจำเกี่ยวกับโลกใบนี้ด้วยตัวผมเองในช่วงแรกของการสูญเสียผมขาดความมั่นใจ และกลัวที่จะยอมรับความจริง แต่เมื่อเริ่มออกเดินทางตัวคนเดียว ผมค้นพบความสงบในจิตใจตนเองในท่ามกลางผู้คนแปลกหน้า การเฝ้าสังเกตและสัมผัสผู้คน ทำให้ผมกล้าที่จะเปิดรับความจริงในชีวิตว่า ชีวิตเราหนีความทุกข์ไม่พ้น ชีวิตผู้อื่นก็เช่นกัน ทีละเล็กละน้อยผมเริ่มเปิดใจสัมผัสความทุกข์ของคนอื่นมากขึ้น และเริ่มคิดถึงความทุกข์ของตัวเองน้อยลง แม้ในความเป็นจริง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียไม่เคยหายไป แต่เมื่อใดที่มีความทุกข์มากระทบ ผมเรียนรู้ที่จะหันไปมองดูคนที่ทุกข์กว่าเรา เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราสามารถสัมผัสความทุกข์ยากของผู้อื่นได้ เมื่อนั้นความทุกข์ในตัวเรา ก็เบาบางลง ผมรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตของเรานั้นผูกพันกับชีวิตของคนรอบข้างอย่างแยกจากกันไม่ออก เราเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่เชื่อมโยงเราไปสู่ชะตาชีวิตที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  เหตุการณ์ใดก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้อื่น ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
 
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณ ภาณุวัฒน์ จิตติวุฒิการ    
โทร 081 305 1474 อีเมล: [email protected]         

Image Gallery