นิทรรศการ “วิวาห์-วานร” ถือเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 2 กับ นัมเบอร์วันแกลลอรี่ ของรัตนะ ขุนแก้ว หลังจากนิทรรศการ “ละครลิง” เมื่อปี2015 เป็นผลงานจิตกรรมสีอคิลิคบนผ้าใบ ที่พูดถึงเรื่องราว ของสังคมต่างๆในมุมมองของเขาโดยนำเสนอผ่าน การแสดง “ละครลิง” กับคำที่เราคุ้นชินกับคำว่า “ชีวิตคือละคร” คำเปรียบเปรยที่ตรงกับชีวิตสังคมที่แสดงไปตามบทบาทหน้าที่ ไปในแต่ละฉากหน้าม่านของสังคม และเก็บงำเรื่องราวหลังม่านอย่างมิดชิด เช่นเดียวกับ ละครลิง ที่เป็นการแสดงโชว์ความบันเทิง ชวนเรียกเสียงหัวเราะ สร้างความตลกขบขัน แต่เบื้องหลังนั้นถูกฝึกสอน บังคับ ขู่เข็ญให้รับบทบาทของมัน เช่นเดียวกับที่มนุษย์นั้น ที่ถูกสะภาพแวดล้อมทางสังคม เสี่ยมสอน ยัดเยียด ขัดเกลา ลักษณะนิสัยให้ใช้ชีวิตปะปนและอยู่รอดในสังคม
 

“วิวาห์-วานร”นิทรรศการ ที่นำเสนอบทละครเรื่อง “วิวาห์-วานร” งานวิวาห์ ที่เป็นฉากหนึ่งของชีวิตคนเราที่ร่วมแสดงด้วยไม่ว่าจะเป็นนางเอกหรือนักแสดงประกอบฉาก ที่หลายๆคนใฝ่หาที่จะโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มม้วนนี้  จากที่เห็นว่าความรักของหนุ่มสาวเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ งานวิวาครั้งหนึ่งมีตัวละครร่วมแสดงฉากนี้คับคั่งนัก กิจกรรมก่อนและหลังองค์วิวาห์นั้นก็ยังมีฉากรอง ปลีกย่อยไปอีกต่างๆนานา เพื่อให้บทละครเรื่อง “วิวาห์-วานร” นั้นเป็นไปตามบทบาทของสังคม

หากพูดถึงตัวผลงานของนิทรรศการ “วิวาห์-วานร”  นั้นเป็นผลงานจิตกรรมสีอคิลิคบนผ้าใบ ได้หยิบยกนำเสนอฉาก ในบทละครเรื่อง “วิวาห์-วานร”ที่แสดงให้เห็นเรื่องราวก่อนและหลัง อาทิเช่น ผลงานชิ้นหาฤกษ์หายาม ภาพฉากที่อยู่ในสำหนัก พูดถึงเรื่องการหาฤกษ์หายาม ถือเป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมของคนเเต่ละชนชาติ  ผสมผสานแตกต่างกันไป ที่มองเหมือนเป็นการกลับมานับถือผีสาง สิ่งศักดิ์สิทธ์ ทวีคูณมากขึ้นอีกกว่าอดีต ผู้คนอ่อนแอต่างเร่งหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจพิธีกรรมอันแปลกประหลาด เจ้าตัวก็ยินยอมพร้อมใจรับมาปฏิบัติเพื่อความสบายใจอีกทั้งเชิญชวน เผยเเผ่ให้คนใกล้เคียงยอมรับด้วยให้ศีลเสมอกัน

รัตนะ ขุนแก้ว ศิลปินหนุ่มจบการศึกษา จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีผลงานโดดเด่นได้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการ และได้รับรางวัล ต่างๆ อีกมากมาย