Arts Network Exhibitions
นิทรรศการ Nazareno Biondo Sculptures
โดย สถานทูตอิตาลี
พิธีเปิดนิทรรศการ วันอังคารที่ 18 กันยายน 2561 เวลา 18.30 น.
เกี่ยวกับศิลปิน
Nazareno Biondo นาซาเรโน บิออนโด (เกิดที่เมืองตูริน ในปี พ.ศ.2528) สำเร็จการศึกษาด้านศิลปะจากสถาบันวิจิตรศิลป์ “อัลแบร์ตีนา” ของเมืองตูริน ประเทศอิตาลี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เขาได้เข้าร่วมการสัมนาวิชาการด้านประติมากรรมทั้งระดับชาติและระดับสากล รวมทั้งได้รับรางวัลในการประกวดแข่งขันและการสร้างสรรค์ประติมากรรมต่างๆ ในปี พ.ศ. 2555 เขาได้เปิดสตูดิโอของตนเองขึ้น โดยสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ จากหินอ่อน วัสดุ และแม่พิมพ์แบบหล่องานประติมากรรมของเขา เพื่อค้นคว้าหาความสมบูรณ์ของรูปแบบและความคิดในการออกแบบสร้างสรรค์
แนวคิด
ความปิติสุขที่โหยหาจากความงามที่ปรากฏอยู่ในความเสื่อมสลายทั้งหมดในตัวเองอันน่าทึ่ง โดยปราศจากความรู้สึกหลงใหลในความงามมาบดบังจิตใจในมือของนาซาเรโน บิออนโด หินอ่อนจะกลายเป็นภาพสะท้อนเกี่ยวกับเวลา และแนวคิดเกี่ยวกับการทิ้งขว้าง โดยได้รับแรงบันดาลใจทั้งจากสิ่งของต่างๆที่ใช้กันทั่วไป และจากสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของการบริโภคในยุคปัจจุบัน ภายใต้บังคับแห่งกฏของสิ่งเหล่านั้น
ทัศนะของนาซาเรโน บิอนโด
ความรู้สึกของศิลปิน ส่วนใหญ่มักจะถูกครอบงำจากสิ่งต่างๆรอบตัวเขา พฤติกรรมที่ชั่วร้าย การบริโภค และการสูญเปล่าของสังคมร่วมสมัยรวมถึงปัญหาทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกัน ได้ถูกสะท้อนออกมาเป็นเนื้อหาในงานของผม วัตถุธรรมดาทั่วไป เช่น ก้นบุหรี่ หรือกระป๋องที่บู้บี้ ที่แสดงออกในมิติกว้าง ถูกทำให้ไร้กาลเวลาโดยใช้วัสดุชั้นสูงที่ผมได้นำมาแกะสลัก เช่น หินอ่อนของเมืองคาราร่า ชิ้นงานเหล่านี้แสดงออกถึงอารมณ์ร่วมได้ดี ในความรู้สึกว่าถูกใช้ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง หลังจากนั้นก็ถูกทิ้งขว้าง โยนทิ้ง มันเป็นความรู้สึกร่วมของปัจเจกบุคคลในสังคมของเราที่ชอบทำลายและที่ไม่เชื่อคุณค่าของสิ่งใด จากก้อนหินอ่อนสีขาวขนาด 15 ตัน โดยใช้เครื่องมือสิ่วและแผ่นเจียระไนหินเพชร ผมกำลังแกะสลัก รถยนต์เฟี๊ยต รุ่น 500 เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสถานที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัญลักษณ์ของเวลา เมื่อครั้งที่เรายังคงสามารถเลือกชะตากรรมของคนรุ่นผมได้ สัญลักษณ์ของเวลาในอดีต จะเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเปรียบเสมือนพยานหลักฐานในความเสียสละที่ผู้ที่เรารักได้สร้างขึ้นในเวลานั้น และยังคงเป็นอยู่ซ้ำๆเช่นนั้นผ่านกาลเวลา ผ่านรุ่นต่อรุ่นชิ้นงานมีลักษณะกลวงข้างใน เมื่อเอาประตูออก ผมจะเข้าไปในก้อนหินอ่อน เพื่อทำให้คุณค่าทั้งหมดของมันว่างเปล่า หากเราต้องการที่จะสื่อสารบางอย่างโดยผ่านศิลปะ โดยเฉพาะ ผ่านงานประติมากรรม ผมเลือกที่จะเน้น ด้วยตาที่วิพากย์วิจารณ์ เพื่อสื่อว่าการละทิ้งวัฒนธรรมของการสิ้นเปลืองสูญเปล่า เพื่อหันสู่วัฒนธรรมของการนำกลับมาใช้ใหม่ นั้นสำคัญอย่างไรและด้วยเหตุดังกล่าว ผมจึงใช้เศษเล็กเศษน้อยของชิ้นงานประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้เป็นตัวแทนของสิ่งที่สูงค่า เช่น เงินสินบน และทองคำแท่งแว่นตา หน้ากาก รายละเอียด และความคิดใคร่ครวญ เกี่ยวกับชีวิตในแต่ละวัน และวัฒนธรรมหมู่ของตะวันตก ได้แผ่กระจายซึมซับอยู่ในผลงานศิลปะของผม ไม่มีอะไรในผลงานของผม เช่นเดียวกับที่ไม่มีอะไรบนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ ที่ควรจะถูกปล่อยให้สิ้นเปลืองสูญเปล่า และด้วยเหตุดังกล่าว ผมจึงใช้เศษเล็กเศษน้อยของชิ้นงานประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้เป็นตัวแทนของสิ่งที่สูงค่า เช่น เงินสินบน และทองคำแท่งแว่นตา หน้ากาก รายละเอียด และความคิดใคร่ครวญ เกี่ยวกับชีวิตในแต่ละวัน และวัฒนธรรมหมู่ของตะวันตก ได้แผ่กระจายซึมซับอยู่ในผลงานศิลปะของผม ไม่มีอะไรในผลงานของผม เช่นเดียวกับที่ไม่มีอะไรบนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ ที่ควรจะถูกปล่อยให้สิ้นเปลืองสูญเปล่า
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Cultural officers of Embassy of Italy 02 2504970