หลังจบนิทรรศการ จะนำผลงานจากภาพวาดไปพิมพ์ซิลค์สกรีนและมอบให้กับทุกคน ที่มาร่วมกิจกรรม 
ทุกคนมีอิสระที่จะนำผ้าพิมพ์ไปตัดเย็บสิ่งที่พวกเขาต้องการ เช่น ทำเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต ชุดเดรส หรือผ้าปูโต๊ะ…
แนวคิดคือการนำเรื่องราวมาสู่โลก สู่ชีวิตประจำวัน โดยนำเรื่องราวมาไว้ใกล้กับร่างกายของเราและไปสู่บทสนทนา

เลน่า เอริกสัน
เลน่า เอริกสัน บอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพวาด วิดีโอ และการแสดงสด ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานศิลปะ เธอสนใจที่จะร่วมทำงานแบบสหสาขาวิชากับศิลปิน ภัณฑารักษ์ นักวิทยาศาสตร์ เชฟ และนักเขียนคนอื่นๆ หลังจากจบการศึกษาด้านศิลปะ เธอได้ออกเดินทางไปยังนานาประเทศกับโปรเจกต์ Artist on the road และกลุ่มการแสดงสด GABI ในพื้นที่นิทรรศการ Kaskadenkondensator Basel เธอได้จัดการแสดงสดรูปแบบต่างๆ เช่น Galleryplay, Gallery Helga Broll, At home a guest, Holiday และการแสดงสดเกี่ยวกับการทำงานศิลปะและภาพลักษณ์ของศิลปิน ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน ตลอดจนทำการวิจัยในพื้นที่ศิลปะ เธอดูแลพื้นที่ศิลปะอิสระ Lodypop ในบาเซิลร่วมกับแอนเดรีย ซีแมนน์ และคริส เรเกน ตั้งแต่ พ.ศ. 2547-2552 โดยยึดคติที่ว่า ‘การแสดงสดที่ปราศจากความกดดันและโปรเจกต์ที่ปราศจากความกังวล’ เธอทำงานเป็นวิทยากรในหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิตที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์และศิลปะแห่งลูเซิร์นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 เธอตีพิมพ์ผลงานในคอลัมน์ KAP ของนิตยสาร Neuland และ Monday 2 Monday ซึ่งเป็นโปรเจกต์การสื่อสารที่ทำร่วมกับวาร์ช่า นายร์ เธอเป็นคณะกรรมการของ existence und product ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์สำหรับศิลปินตั้งแต่ พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา
 

(2) Performance by Arahmaiani
การแสดงเริ่มเวลา : 16.00 น.

 
ศิลปิน :
อะราไมยานี
 
อะราไมยานี
อะราไมยานีเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงและได้รับความนับถือมากที่สุดของอินโดนีเซีย เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมาอย่างยาวนานจากการแสดงข้อคิดเห็นที่ทรงพลังและปลุกเร้าประเด็นปัญหาทางสังคม การเมือง และวัฒนธรรม เธอเกิดใน พ.ศ. 2504 ที่เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย เธอมีชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงทศวรรษนับตั้งแต่ พ.ศ. 2523 ในฐานะผู้บุกเบิกด้านศิลปะการแสดงสดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลงานการแสดงสดในช่วงแรกจัดแสดงในพื้นที่สาธารณะ โดยบอกเล่าถึงปัญหาสังคมและการเมืองในช่วงต้นทศวรรษนั้น ซึ่งระบอบทหารได้ควบคุมและกดขี่คนในประเทศ ภายหลังเธอมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ลักษณะการเปิดให้โต้ตอบมีปฏิสัมพันธ์ในผลงานการแสดงสดของเธอได้พัฒนาไปเป็นการแสดงสดที่เกี่ยวข้องกับชุมชนรวมถึงในงานโปรเจกต์งานศิลปะต่าง ๆ  ผลงานของเธอมุ่งทำความเข้าใจประเด็นการเมืองร่วมสมัย ความรุนแรง การวิพากษ์ระบบทุน เรื่องร่างกายของผู้หญิง และในช่วงปีหลังๆ มานี้ เธอให้ความสนใจในตัวตนของเธอเองที่ถึงแม้จะเป็นมุสลิม แต่ก็ผสานเอาความเชื่อของทั้งศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ และการนับถือผีเข้าด้วยกัน เธอมักใช้ความเป็นที่รู้จักต่อสาธารณะของตนเพื่อดึงดูดความสนใจต่อเรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป และความรุนแรงต่อผู้หญิงหรือการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงโดยเฉพาะในสังคมมุสลิมของอินโดนีเซีย โดยตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา เธอได้รวบรวมเอาทัศนคติที่วิพากษ์ศาสนาอิสลามมาใช้ต่อสู้กับการตีตราแบบเหมารวมของสังคมด้วย เธอทำงานร่วมกับโรงเรียนประจำอิสลาม Pesantren Amumarta ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มาตั้งแต่ พ.ศ. 2549 และใน พ.ศ. 2553 เธอได้ร่วมงานกับพระทิเบตในที่ราบสูงทิเบตเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา เธอทำการสอนอยู่ที่คณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยพัสเซา ในเยอรมนี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายการศึกษา หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
โทร 02-214-6630 ต่อ 519
Email: [email protected]