ในขณะที่สังคมกำลังเริ่มที่จะมองเห็นว่าบุคคลที่มีความหลากหลายทางการเรียนรู้นั้น สื่อสารแตกต่างกัน นิทรรศการ “ภาษาแห่งจิตวิญญาณ” ซีรีส์ของนิทรรศการศิลปะเพื่อความแตกต่างยังคงนำเสนอศักยภาพของมนุษย์ผ่านงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง ในนิทรรศการเหล่านี้ “ความหวัง” ทอแสงขึ้นมา ความหวังว่าสังคมจะได้ยินเสียงภายในของพวกเขา ความหวังว่าเราจะเดินก้าวข้ามความตระหนักรู้สู่ภูมิทัศน์ของบทสนทนาที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ความหวังว่าวันหนึ่ง ความเข้าใจเหล่านี้จะนำไปสู่สังคมที่โอบรับและให้เกียรติผู้มีความหลากหลายทางการเรียนรู้และกลายเป็นสังคมของคนทุกคนอย่างแท้จริง

 

นิทรรศการหรือกิจกรรมเพื่อสังคม? 

เราอาจตั้งคำถามนี้เมื่อเดินเข้ามาในงาน Artist Performance

 

การแสดง หรือ การทำกิจกรรมร่วมกัน การแสดงผลงานศิลปะ หรือ สาธิตการทำผลงานศิลปะ... ความหมายอันหลากหลายนี้เป็นโจทย์ของนิทรรศการนี้ โจทย์ที่น่าสนใจว่า เมื่อคนคนหนึ่งสามารถที่จะถ่ายทอดพลังบางอย่างผ่านผลงานที่เขาสร้างขึ้น ผลงานกำลังสร้างร่องรอยและคว้าห้วงเวลาหนึ่งให้เราได้ใช้ร่วมกัน

 

ในซีรีย์การจัดงาน “ภาษาแห่งจิตวิญญาณ” ตลอด 3 ปีที่ ผ่านมา เราพยายามที่จะนำเสนอแง่มุมที่หลากหลาย ในบริบทของศิลปะและความท้าทายทางการเรียนรู้ ทั้งการแสดงผลงานศิลปะ การทดลองสร้างงานระหว่างผู้คนที่หลากหลาย การจัดฉายภาพยนตร์ เปิดเวทีให้การแสดงและกิจกรรมบนเวที เราพากันทำเวิร์คชอป เปิดตลาดศิลปะ ทั้งหมดนี้ วนเวียนอยู่รอบ ๆ การ “สร้างชุมชน” ที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ของการอยู่ร่วมกัน โดยมีศิลปะเป็นตัวเชื่อมโยง ศิลปะได้มอบความเป็นไปได้ที่ไม่มีขีดจำกัดให้กับทั้งผู้สร้างงาน ผู้ที่เดินเคียงข้าง และแม้แต่ผู้ชมคนแปลหน้าในพื้นที่แห่งนี้ แน่นอนว่า บางทีอาจจะสร้างแรงบันดาลใจหรือปะทุพลังภายใน

 

ในครั้งนี้ ศิลปินและนักสร้างสรรค์ 8 กลุ่ม รับคำเชิญมาร่วมสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ โดยอาศัยกระบวนการต่าง ๆ กัน ในช่วงปลายมีนาคม เวิร์กชอปการถ่ายภาพภายใต้หัวข้อ Storytelling through The Lens นำโดย ทอม โพธิสิทธิ์ หัวเรือ
แห่งแกลเลอรี HOP Hub of Photography ได้มอบหลักการพื้นฐานที่ติดปีกให้กับผลงานภาพถ่ายโดยช่างภาพสมัครเล่นทั้ง 7 คน ในขณะที่กระบวนการถ่ายทอดความเชี่ยวชาญอื่น ๆ จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาของนิทรรศการนี้ เราจะได้มีโอกาสเรียนรู้การออกแบบผลิตภัณฑ์จากขยะพลาสติกกับปิยาภา วิเชียรสาร และชโลชา นิลธรรมชาติ จาก A Thing That is Pieces ได้ลองฝึกปั้นจิ๋วกับ ภัคชัญญา อู่ปรัชญา ลองถักชิ้นงานจากผ้าไหมยึดกับ เพชนลภา ชีวมงคล นอกจากนั้น ยังมีเวิร์กชอปด้านการแสดงและการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันตลอดระยะเวลาของการจัดงานนี้ นำโดย กรกฎ ธีรสวัสดิ์จากเยาวชนห้องเรียนปีกกล้าขาแข็ง ชวนทุกคนร่วมเคลื่อนไหวแบบยูริธมี เพื่อพัฒนาทักษะการพูดและความสมดุลกายจิต ทีมติ๋ง ติ๋ง หน้าต่างสายรุ้ง เปิดม่านละครหุ่นให้ได้ลองฝึกเชิดและแสดงไปพร้อม ๆ กัน ในขณะที่ ทีม DBK-T21 (Down Syndrome Bangkok – Trisomy 21) นำเสนอการแสดงที่ได้สร้างแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยมมาในหลายเวที ท้ายสุด นีลชา เฟื่องฟูเกียรติ กับละครสร้างสรรค์ (Creative Drama) ที่ทุกคนจะได้เป็นทั้งผู้เล่าผู้เล่น ร่วมแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้จากนิทานที่บอกเล่าถึงการอยู่ร่วมกัน 

 

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างส่วนเล็ก ๆ ที่เปิดให้เราเห็นความสามารถหรือความเป็นไปได้ที่ก้าวข้ามความท้าทายทั้งปวง และ
เป็นการสร้าง “ห้องทดลองชุมชน” สำหรับทุกคน 

 

เดอะ เรนโบว์ รูม ศูนย์ความเข้าใจในด้านบวกเกี่ยวกับความต้องการพิเศษที่ไม่แสวงหาผลกำไร เราเป็นกลุ่มพ่อแม่, ครอบครัว และเพื่อนของบุคคลที่มีความต้องการพิเศษด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รวมถึงดาวน์ซินโดรม, ออทิสซึ่ม, แอสเพอร์เกอร์ส, พีดีดี เอ็นโอเอส, เซเรบรัล พัลซี, เอดีเอชดี และความท้าทายด้านพันธุกรรมอื่น ๆ เราส่งเสริมความเข้าใจด้านบวกผ่านการแบ่งปันข้อมูล, ประสบการณ์, กำลังใจ และพลังเสริม แบบ “พ่อแม่สู่พ่อแม่”

 

เราสนับสนุนการช่วยเหลือตนเอง, เสริมความมั่นใจ และความภาคภูมิใจในความแตกต่างเฉพาะบุคคล วัตถุประสงค์ของเราคือ การเป็นแรงบันดาลใจเพื่อโอกาสที่ดีกว่า ผ่านการยอมรับของชุมชน

 

เราคือเพื่อนร่วมทางของคุณบนเส้นทางสายพิเศษนี้